วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

อยากผิวสวยสุขภาพดี กิน 5 สิ่งนี้สิช่วยได้

อาหารผิวสวย
          

          อาหารเพื่อผิวสวย สุขภาพดี ก็ต้อง 5 อย่างนี้แหละเริดสุด ๆ ไม่ว่าจะกินหรือนำมาบำรุงผิวภายนอก ก็ให้ผลลัพธ์ดีไม่แพ้กัน

          
          อย่าเพิ่งคิดว่าการบำรุงผิวด้วยสกินแคร์จะช่วยให้ผิวสวยใสได้ทางเดียว เพราะอาหารจากธรรมชาตินี่แหละ อุดมไปด้วยประโยชน์และวิตามินที่ดีต่อผิวคุณที่สุดแล้วจริง ๆ อ๊ะ … ถ้าฟังมาขนาดนี้แล้วชักจะสนใจ กระปุกดอทคอมขอแนะนำว่าลองหาอาหาร 5 อย่างนี้ที่ Health บอกว่าช่วยให้ผิวสวยสุขภาพดีมาบำรุงผิวดูสิ

อาหารผิวสวย

สตรอว์เบอร์รี 
         
          ในสตรอว์เบอร์รีอุดมไปด้วยวิตามินซีที่มากกว่าในส้มหรือเกรปฟรุต ซึ่งจะช่วยต่อต้านริ้วรอยและผิวเหี่ยวย่นได้เป็นอย่างดี ซึ่งนอกจากจะกินเพื่อให้ผิวดีจากภายในแล้ว ก็ยังสามารถนำผลสด ๆ มามาสก์หน้าได้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นได้อีกด้วย

อาหารผิวสวย

น้ำมันมะกอก
        
          น้ำมันมะกอกนี่แหละที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและต่อต้านการอักเสบได้ ที่สำคัญยังทำให้ผิวนุ่มเปล่งปลั่งขึ้นกว่าที่เคย ซึ่งสาว ๆ อาจจะนำมาใส่ในอาหาร เช่น สลัดผัก หรือจะนำมาทาริมฝีปากเพื่อให้นุ่มเนียนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสาวผิวแห้งถ้าได้ลองนำน้ำมันมะกอกมาทาผิวจะยิ่งหลงเลิฟสุด ๆ เพราะจากผิวที่แห้งจะนุ่มชุ่มชื้นเนียนสดใสขึ้นกว่าเดิมจนสัมผัสได้
อาหารผิวสวย

ชาเขียว        

         
          การดื่มชาเขียวไม่เพียงแต่ทำให้รู้สึกรีแล็กซ์ได้เท่านั้น แต่ในชาเขียวยังมีสารต้านอนุมูลอิสระและต่อต้านการอักเสบได้ นอกจากนี้งานวิจัยยังบอกว่าการดื่มชาเขียวยังช่วยลดโอกาสการเป็นมะเร็งผิวหนังได้ด้วย โดยอาจจะดื่มชาเขียว 3 แก้วใหญ่ ๆ ทุกวัน เพื่อช่วยต้านอนุมูลอิสระที่คอยทำลายผิวคุณ หรือจะนำถุงชาไปแช่ตู้เย็น แล้วนำมาวางบนเปลือกตา เพื่อช่วยลดอาการตาบวมก็ได้
อาหารผิวสวย

ฟักทอง 
         
          นี่แหละผักสีเหลืองเนื้อนิ่มที่กินแล้วช่วยต่อต้านริ้วรอยได้ เพราะในฟักทองอุดมไปด้วยวิตามินซี อี และเอ บวกกับในฟักทองมีคุณสมบัติช่วยเติมความชุ่มชื้นด้วย หากใครไม่อยากแก่ก่อนวัยจนใคร ๆ ก็เรียกป้า รีบหาฟักทองมากินด่วน ๆ เลยนะจ๊ะ
อาหารผิวสวย

ทับทิม

         
          เรียกได้ว่าทับทิมเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งงานวิจัยบอกว่าในน้ำทับทิมมีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบและช่วยชะลอวัยได้มากกว่าชาเขียวซะอีก หากใครอยากผิวสวยไร้ริ้วรอย ก็หาทับทิมสด ๆ มากินเถอะ หรือจะใช้เป็นสครับผิวเลยก็ได้นะ โดยให้นำเมล็ดทับทิมสด 2 ช้อนโต๊ะ มาผสมกับข้าวโอ๊ต 1 ถ้วย น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ และบัตเตอร์มิลค์ 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันแล้วนำมาพอกหน้าสักพักค่อยล้างออก 

          โอ้โห … ของที่กินเป็นประจำหรือเห็นจนชินตาเหล่านี้ ใครจะไปคิดล่ะว่ามันมีประโยชน์กับผิวมากถึงขนาดนี้เชียวนะเนี่ย แบบนี้ต้องไปหามาบำรุงผิวด่วน ๆ แล้วล่ะ ^_^

5 วิธีกินมื้อเย็นไม่ให้อ้วน อยากผอมต้องรู้ !

อาหารเพื่อสุขภาพ

5 วิธีกินมื้อเย็น ไม่ให้อ้วน (e-magazine)

          การอดอาหาร คือ การลดน้ำหนักแบบผิด ๆ แต่มื้อเย็นก็เป็นมื้อที่สาว ๆ กลัวอ้วนกันที่สุด แบบนี้ต้องอ่านเทคนิคการกินมื้อเย็นที่นำมาฝากกันเลย

          มีประโยคหนึ่งกล่าวไว้ว่า "เช้าทานอย่างราชา กลางวันทานอย่างคนธรรมดา เย็นทานอย่างยาจก" นั่นก็เพราะว่าเราต้องให้ความสำคัญกับอาหารมื้อเช้ามากเป็นพิเศษ ส่วนอาหารเย็นนั้นควรรับประทานแต่พอดี ไม่หนักมากนัก เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายต้องการการพักผ่อนแล้วนั่นเองครั้งนี้เรามาทำความเข้าใจถึงความจำเป็นของอาหารเย็นต่อร่างกายว่ามีมากน้อยเพียงใด และหลักที่ถูกต้องในการทานอาหารเย็นว่าเราจะทานอย่างไรให้มีสุขภาพที่ดีไปนาน ๆ

1. ไม่ควรงดอาหารมื้อเย็น

          สาว ๆ หลายท่านชอบลดน้ำหนักด้วยวิธีการงดอาหารเย็น ซึ่งไม่ควรค่ะ นอกจากจะหิวแล้ว ยังไม่ทำให้น้ำหนักลดเท่าไร เนื่องจากเมื่อถึงเวลาอาหาร โดยปกติร่างกายจะหลั่งกรดออกมาเพื่อทำการย่อยอาหาร ดังนั้น เมื่อไม่มีอาหารในกระเพาะ น้ำย่อยก็จะมาย่อยกระเพาะแทน เราจึงควรลดมากกว่างด

          เลือกทานอาหารเบา ๆ หรืออาหารที่ให้พลังงานน้อยที่สุด อย่างเช่น เน้นผักและผลไม้ ส่วนเนื้อสัตว์ติดไขมัน ของมัน ๆ ทอด ๆ ควรงดจะดีกว่านะคะและเวลาที่ควรทานคือหกโมงเย็นถึงหนึ่งทุ่ม ไม่ควรทานดึกกว่านี้


 2. หลังทานอาหารเย็นไม่ควรออกกำลังกายต่อทันที

          บางท่านกลัวอ้วน หลังทานอาหารเย็นจึงออกกำลังกายทันที ความจริงแล้วเป็นเรื่องที่ไม่ควรนัก ถ้าเราทานอาหารภายในเวลา 1-2 ชั่วโมง แล้วไปออกกำลังกายทันที อาจทำให้เราเกิดอาการจุกได้ ถ้าเป็นไปได้ควรเดินเรื่อย ๆ ไม่ต้องเร่ง เพราะเวลาเราเดินลำไส้จะมีการขยับตัว อาหารก็จะย่อยง่ายและยังเป็นการใช้พลังงานไปในตัวอีกด้วย เป็นแนวทางที่ดีในการปฏิบัติจะได้ไม่อ้วนนะคะ

          ส่วนสาว ๆ ที่ต้องการออกกำลังกายหลังเลิกงาน เป็นต้นว่าไปเข้าฟิตเนส จะมีหลักการทานมื้อเย็นอย่างไร ความจริงแล้วถ้าคิดจะออกกำลังกายในช่วงเย็น พอเลิกงานควรทานอาหารเบา ๆ อาหารที่ย่อยง่าย เคี้ยวให้ละเอียด เว้นประมาณ 1-2 ชั่วโมง ก่อนการออกกำลังกาย งดอาหารย่อยยาก เช่น ของมัน ของทอด อาหารที่มีกะทิเหล่านี้จะย่อยยาก


อาบน้ำ


 3. หลังอาหารเย็นไม่ควรอาบน้ำในทันที

          เพราะเมื่อเราทานอาหาร ขณะที่อาหารกำลังย่อย กระเพาะต้องทำงาน เลือดต้องถูกไปหล่อเลี้ยงกระเพาะเพื่อช่วยในการย่อย ถ้าเราไปอาบน้ำทันทีหลังอาหาร ซึ่งโดยปกติแล้วมนุษย์เป็นสัตว์เลือดอุ่น เมื่อร่างกายโดนน้ำเย็น ๆ ก็จะทำให้เลือดจำเป็นต้องมาที่บริเวณผิวหนัง เพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น ดังนั้นแล้วเลือดจึงถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งแน่นอนว่า มันต้องถูกแบ่งมาที่ผิวหนังก่อนเป็นอันดับแรก ทำให้เลือดส่งไปที่กระเพาะได้น้อย 

          สิ่งที่เกิดขึ้นคือระบบการย่อยทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ ท้องจะอืด แน่นท้อง จุก จึงควรเว้นอย่างน้อยที่สุด 30 นาที และทางที่ดีที่สุดต้องประมาณ 1 ชั่วโมง สำหรับอาหารที่ย่อยง่าย และ 2 ชั่วโมง ถ้าเรารับประทานอาหารที่ย่อยยาก


 4. หากสาว ๆ ต้องการลดความอ้วนด้วยให้ทานผักหรือผลไม้ในมื้อเย็น

          ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก มื้อเย็นอาจทานเป็นผักผลไม้ และจะต้องไม่เลือกผลไม้ที่เป็นกรด เพราะขณะท้องว่างร่างกายจะมีกรดมากอยู่แล้ว และเลี่ยงการทานผักหรือผลไม้ดิบขณะท้องว่าง เพราะจะทำให้ท้องอืดได้ แนะนำว่าให้ทานผักสุก เช่น การลวก การต้ม แกงจืด หรือยำที่รสชาติไม่จัดมาก เช่น ยำแตงกวา ยำวุ้นเส้น ที่ไม่เผ็ดหรือเปรี้ยวเกินไป


 5. อาหารมื้อเย็นที่ควรหลีกเลี่ยง

          ได้แก่ อาหารที่ย่อยยาก เช่น ของมัน ของทอด เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง ถ้าต้องทานควรทานในปริมาณเล็กน้อย และไม่ควรทานอาหารที่เป็นกรดมาก เพราะอาจทำให้เกิดภาวะกรดไหลย้อนหลอดอาหารได้ 

          สำหรับวัยผู้ใหญ่ แนะนำว่าอาหารมื้อเย็นควรเป็นอาหารย่อยง่าย มีโปรตีนสูง มีคาร์โบไฮเดรตบ้าง แต่ไม่ต้องมาก เช่น ข้าว ข้าวซ้อมมือ (จะทำให้อยู่ท้องกว่า) ผักลวก ผักต้ม และต้องคำนึงถึงสารอาหารที่ครบทั้ง 5 หมู่ด้วยนะคะ

          อย่าคิดว่าอาหารมื้อเย็นไม่สำคัญนะคะ ควรใส่ใจและให้ความสำคัญกับการเลือกทานมื้อเย็นให้มาก แต่ต้องทานแค่พอเหมาะไม่ทานจุเกินไป เพราะนอกจากจะทำให้อ้วนแล้วยังมีอีกหลายโรคตามมาจากการทานอาหารมื้อเย็นที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น เบาหวาน ไขมันในเลือด ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ นอกจากนี้แล้วยังส่งผลถึงคุณภาพการนอนอีกด้วย

          สุดท้ายนี้ อย่าลืมว่าตอนกลางคืนเราแทบจะไม่ได้ใช้พลังงานเลย อดก็เป็นโรค ทานมากเกินไปก็เป็นโรค ควรทานให้พอเหมาะพอดีนะคะ ดังคำกล่าวที่ว่า "อโรคยา ปรมา ลาภา" ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ